
นายสุจำพวก มงคลนักปราชญ์ รองหัวหน้าพรรค และก็ ประธานคณะกรรมการทางด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย
พูดถึงการสัมมนาคณะรัฐมนตรี ตอนวันที่ 25 ตุลาคมก่อนหน้านี้ ข่าวสังคม ในกรณีที่สัมมนาลงความเห็นรับวิธีการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้งการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีสมรรถนะสูงสู่เมืองไทย
เนื้อหาหมายถึงจะอนุญาตให้คนต่างด้าวที่เป็นนักลงทุนและก็มีประสิทธิภาพทางด้านเศรษฐกิจสูง ครองที่ดินในประเทศไทยได้ไม่เกิน 1 ไร่ โดยจึงควรนำเงินมาลงทุนในประเทศ ไม่ต่ำลงยิ่งกว่า 40 ล้านบาท
นายสุชนิด มีความเห็นต่อมติเตียน คณะรัฐมนตรี นี้ว่า ตนเห็นด้วยกับการที่จะอนุญาตให้นักลงทุนที่มีความสามารถสูงรวมทั้งมีเงินลงทุนสูง สามารถครองที่ดินได้ 1 ไร่ เนื่องจากว่าสอดคล้องกับสิ่งที่ตนเคยเสนอไปเมื่อนับเป็นเวลาหลายเดือนก่อน เนื่องจากว่าถือได้ว่าจังหวะที่จะปลดล็อกเศรษฐกิจให้กับคนภายในชาติ แต่ว่ามีความเห็นว่าควรจะเปลี่ยนแปลงมาตรการที่เกี่ยวโยงให้รัดกุมเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้กระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยรายนี้ มีความคิดเห็นว่า ไม่สมควรจะให้นักลงทุนเอาเงินมาลงทุนแล้วจะได้สิทธิถือสิทธิ์เนื่องจากครั้งคราวนักลงทุนเพียงแค่บางครั้งก็อาจจะนำเงินมาฝากไว้ หรือ ลงทุนทิ้งเอาไว้ภายในตลาดค้าหุ้นแล้วรอรับดอกหรือเงินโบนัส แต่ว่าจำเป็นต้องกลายเป็น นำเงิน 40 ล้านบาทนั้นมาซื้อที่ดินและก็สิ่งก่อสร้างโดยตรง เพราะเหตุว่าจะมีผลให้มีเงินไหลเข้าระบบในทันทีถ้าหากมีคนประเทศอื่นสัก 10,000 รายมาซื้อ ประเทศก็จะได้รายได้กว่า 400,000 ล้านบาทในทันที
นายสุจำพวก บอกว่า ถ้าจะทำข้อแนะนำนี้ต่อนั้นสิ่งที่จำต้องคิดต่อเป็นจะทำยังไงให้ประเทศมีรายได้เข้ามาหมุนวนในระบบเยอะที่สุด โดยที่ไม่กระทบคนภายในชาติ สิ่งจำเป็นขั้นแรกเป็นจะต้องเน้นว่าการครอบครองนี้ให้ใช้ด้วยวัตถุประสงค์เดียวเป็นพักอาศัย ห้ามเอามาค้าขายหรือปลดปล่อยเช่าต่อเด็ดขาด
ประการถัดมาเป็น ควรเป็นที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้างใหม่อย่างเช่นบ้านในหมู่บ้านจัดสรร หรือ ที่ดินไม่พร้อมแนวทางก่อสร้างบ้านใหม่ ที่ราคารวมไม่ต่ำลงยิ่งกว่า 40 ล้านบาท เพื่อเป็นการดึงเงินเข้ามาในระบบ ให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างรวมทั้งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆแล้วก็มาตรการที่จะดึงเงินไปสู่เมืองโดยตรงได้อีกทางหนึ่งเป็น จะต้องคิดค่าธรรมเนียมการโอนของคนต่างชาติ ให้มากยิ่งกว่าของคนประเทศไทย จาก 2% บางทีอาจคิดคนต่างประเทศ 4% แล้วก็เก็บภาษีที่ดินรวมทั้งสิ่งก่อสร้าง ในอัตราที่มากกว่าชาวไทยด้วยด้วยเหมือนกัน เพื่อดึงเงินไปสู่เมืองโดยตรงอีกทางหนึ่ง